กุ้งมีกี่ชนิด หากไม่นับอาหารแสนเบสิกที่เรากินในชีวิตประจำวันหรือเมนูโปรดในร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ อาทิ ผัดกะเพรากุ้ง ผัดไทยกุ้งสด หรือข้าวผัดกุ้งที่มักใช้ “กุ้งขาว” (Fresh White Shrimp) หรือ “กุ้งแวนนาไม” (Vannamei) กุ้งน้ำเค็ม สำตัวสีขาวใส หางออกสีแดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกุ้งเลี้ยงและหาซื้อทั่วไปได้ง่าย ในโลกของเรานี้ยังมีกุ้งสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีรสชาติความอร่อยรอให้เราค้นพบอีกมากมาย
เริ่มจากกุ้งที่คนรักอาหารทะเลคุ้นเคยกับชื่อเรียกที่ค่อนข้างคุ้นหูอย่าง “กุ้งลายเสือ” (Tiger Prawn) กุ้งตัวใหญ่ เนื้อแน่น ลำตัวยาว มีลายสีแดงสลับดำคล้ายลายเสือ เหมาะสำหรับเมนูกุ้งย่าง กุ้งเผา และกุ้งอบ ติดตามบทความดีๆได้ที่ Socialvarietyz
“กุ้งแชบ๊วย” (Banana Shrimp) กุ้งน้ำเค็ม ตัวเล็ก สีขาวขุ่นอมเหลือง เนื้อแน่น และมีรสชาติดีกว่ากุ้งขาว จะนำมาทำกุ้งอบวุ้นเส้นหรือต้มยำกุ้งก็อร่อยเด็ด และ “กุ้งแม่น้ำ” (River Prawn) ขนาดตัวใหญ่ สีน้ำเงินอมเขียวหรือฟ้า ขาและหนวดยาว เนื้อแน่น หัวกุ้งมีมันมากเป็นหนึ่งในกุ้งยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่นำมาทำกุ้งเผาหรือกุ้งทอดพริกเกลือ
ส่วนกุ้งขนาดยักษ์ที่สร้างความสับสนได้พอสมควรนั่นคือ “ล็อบสเตอร์” (Lobster) กุ้งที่มีฉายาว่า “ราชาแห่งท้องทะเล” นี้อาศัยอยู่ในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก สีน้ำตาลดำ และจะเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดงจัดเมื่อโดนความร้อน เนื้อหวานอร่อยมากจึงนิยมนำมาทำเมนูที่ไม่ต้องปรุงรสมาก เช่น อบ นึ่ง หรือย่าง
สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากคือ “แคนาเดียน ล็อบสเตอร์” (Canadian Lobster) ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความสด เนื้อแน่น รสหวาน กับ “กุ้งมังกร” ที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นชนิดเดียวกับกุ้งล็อบสเตอร์ แต่จริงๆ แล้วกุ้งมังกรคือกุ้งขนาดใหญ่ที่มีหนวด แต่ไม่มีก้าม (นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับล็อบสเตอร์)
อาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก นิยมนำมาเพาะพันธุ์เลี้ยงมากกว่ามาจากธรรมชาติ มีลายจุดสวยงาม (ซึ่งกลายเป็นสัตว์น้ำที่มีคนเลี้ยงเพื่อความสวยงามเป็นหลัก) และสามารถนำมากินทั้งทำให้สุกหรือสดอย่างซาชิมิก็ได้
มาถึงกุ้งที่เริ่มได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในบ้านเรามากขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาอย่าง “เครย์ฟิช” (Crayfish) กุ้งน้ำจืดเปลือกสีแดง ฉายา “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” เนื่องจากสายพันธุ์ใกล้เคียงกับล็อบสเตอร์แต่ตัวเล็กกว่า บ้านเราเริ่มเป็นที่สนใจจากเมนูกุ้งถังซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก แต่จริงๆ แล้วเครย์ฟิชคือกุ้งที่ชาวยุโรปแถบสแกนดิเนเวียนิยมกินมานานหลายร้อยปีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกุ้งจากทะเลแถบประเทศสเปนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น “กุ้งแดงคาราบิเนรอส” (Carabineros Shrimp) สีแดงสด เนื้อนุ่มเด้ง รสหวาน เหมาะกับการกินดิบ
“กุ้งแดงสเปน” (Mediterranean Red Shrimp) เนื้อหวานกว่ากุ้งทั่วไป รสชาติคล้ายล็อบสเตอร์
“กุ้งกัมเบโอ รอสโซ” (Gambero Rosso Prawn) หรือที่แปลว่า “กุ้งแดง” ในภาษาอิตาเลียน มีความครีมมี่ เนื้อนุ่มละลายในปาก และ “กุ้งแดงไข่สีน้ำเงิน” (Blue Belly Shrimp) ลำตัวสีแดงอมส้ม แต่มีจุดเด่นตรงส่วนท้องสีน้ำเงินเข้ม รสหวาน เนื้อนุ่มละเอียด
Socialvarietyz ★ Shrimp VS Prawn ความเหมือนที่ (ไม่) แตกต่าง ★
เรียกว่าเป็นหนึ่งในความสับสนของเหล่านักกินและนักเรียนรู้ด้านภาษา สำหรับคำเรียก “กุ้ง” ในภาษาอังกฤษที่ชวนให้งุนงงระหว่าง “Shrimp” และ “Prawn” ซึ่งเรามักเห็นผ่านตากันอยู่บ่อยๆ และคนส่วนใหญ่มักคิดว่า “Shrimp” คือกุ้งที่มีขนาดตัวเล็ก ส่วน “Prawn” คือกุ้งที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า
อันที่จริงแล้วความเข้าใจนี้ก็ถือว่าถูกต้องส่วนหนึ่ง เพราะ Shrimp ส่วนใหญ่จะมีขนาดที่เล็กกว่า Prawn (แม้บางครั้งจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้นๆ ด้วย) แต่ยังมีวิธีสังเกตความแตกต่างอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนขาหน้า โดย Shrimp จะมีขาหน้า 2 คู่
เปลือกด้านหลังตรงปล้องที่ 2 จะนูนเห็นชัดเจน และมีเหงือกที่มีลักษณะคล้ายนิ้วมือ แต่ Prawn จะมีขาหน้า 3 คู่ เปลือกด้านหลังเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบ และหายใจด้วยเหงือกที่มีลักษณะเป็นกิ่งก้าน
นอกจากนี้ WBET69 Shrimp มักดำรงชีวิตในมหาสมุทรและทะเลน้ำเค็ม ทั้งบริเวณน้ำอุ่นและน้ำเย็น ส่วน Prawn ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในน้ำจืดและน้ำกร่อย ที่สำคัญรสชาติและเนื้อสัมผัสของกุ้งทั้ง 2 ชนิดนี้มีความคล้ายคลึงและสามารถนำมาทำเมนูอร่อยได้อย่างหลากหลายเช่นกัน
กุ้งมีกี่ชนิด สำหรับการใช้คำศัพท์ในภาษาอังกฤษนั้นก็สามารถใช้หมายถึง “กุ้ง” ได้เช่นเดียวกัน โดย Shrimp เป็นคำที่นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา แต่ Prawn มักใช้กันในประเทศอังกฤษ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และไอร์แลนด์ (แต่โดยความเข้าใจของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ เวลาใช้คำว่า Prawn จะเน้นสื่อถึงกุ้งที่มีขนาดใหญ่และอาศัยในน้ำจืด)