11 ประเภทชีส ที่คนรักชีสต้องรู้จัก

11 ประเภทชีส

11 ประเภทชีส เป็นอาหารและวัตถุดิบหลักชนิดหนึ่งของอาหารตะวันตก เป็นอาหารที่มีการบริโภคมากติดอันดับต้นๆของโลกและมีหลากหลายชนิด ชีสนั้นทำมาจากนมของสัตว์ มีต้นกำเนิดและประวัติมาอย่างยาวนาน คำว่าชีสมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า

caseus ซึ่งแปลว่า เนยแข็ง เกิดขึ้นจากความบังเอิญ เพราะชนเผ่าเบดูอินเรร่อนอยู่ในทะเลทรายทำการแบกน้ำนมโดยใช้กระเพาะอาหารของแพะใส่น้ำนมบรรทุกไว้บนหลังอูฐิเพื่อประทังชีวิต แต่ระหว่างการเดินทางนั้นต้องผ่านความร้อนและการเขย่า ทำน้ำนมในภาชนะกระเพาะแพะเกิดการแยกชั้นน้ำและไขมันออกจากกัน 11 ประเภทชีส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีสที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ
สำหรับประเภทชีสแสนอร่อย สามารถแบ่งคร่าวๆ ดังนี้

ชีสนุ่ม (Soft Cheese)

ชีสนุ่มเป็นชีสที่มีความเข้มข้นของครีมสูง ให้รสสัมผัสนุ่มนวลสีขาวละลายในปากมักใช้เวลาในการบ่มชีสสั้น ชีสมีกี่ชนิด เช่น ชีสบรี (Brie Cheese), ชีสกามองแบร์ (Camembert Cheese)และ (Neufchatel Cheese)ซึ่งจะมีผิวด้านนอกบาง รับประทานแล้วรู้สึกใกล้เคียงกับครีม Soft Cheeseนั้นPairing ได้ดีมากกับไวน์ขาว เช่นSavignon Blanc ที่มีรสของผลไม้และไม่จัดมากไปเหมือนเช่นไวน์แดงซึ่งจะกลบรสชาติของชีส socialvarietyz

ชีสกึ่งแข็ง-กึ่งนุ่ม (Semi Cheese)

ชีสประเภทนี้ปาก มักใช้เวลาในการบ่มนานกว่า Soft Cheese แต่สั้นกว่า Hard Cheese แบ่งออกเป็น ชีสกึ่งนุ่ม (Semi-Soft Cheese) มีความชื้นสูงและมีรสชาติอ่อนๆ ไม่เข้มข้นมากนักเป็นวัตถุดิบที่มีหลากหลายมากๆ เช่น Milleens, Provolone, Raclette, Havarti, Munster และ Port Salut ตามด้วยชีสกึ่งแข็ง (Semi-Hard Cheese) รสสัมผัสมีความชื้นต่ำไม่นิ่มและไม่แข็งเท่าไหร่นัก เช่นCheddar Chesse และ Gouda Cheese

ชีสแข็ง (Hard Cheese)

มาถึงชีสแข็งหรือเนยแข็งสีเหลืองที่เราพบเห็นบ่อยครั้งและรู้จักกันดีในเมนูอาหารมักจะใช้เวลาบ่มนานกว่าชีสประเภทอีกๆ มีความชุ่มฉ่ำไม่มากเน้นความหนาเนื้อค่อนข้างแข็ง ชีสแผ่น เช่นชีสพาร์เมซาน(Parmigiano-Reggiano or Parmesan Cheese)หรือชีสเพโคริโน(Pecorino Romano Cheese)

ประเภทชีสยอดนิยมที่คนรักชีสต้องรู้จัก

  1. บรี (Brie Cheese)

ชีสบรีเป็นชีสที่ผลิตจากนมวัว WBET69 เป็นชีสที่มีความนิ่มมากเนื่องจากการบ่มในระยะเวลาสั้นประมาณ 5-6 สัปดาห์ เป็นชีสที่มีต้นกำเนิดไกลถึงฝรั่งเศส ซึ่งถูกตั้งชื่อตามแคว้นต้นกำเนิดในฝรั่งเศษ สำหรับชีสบรี (Brie) มีลักษณะสีขาว บางครั้งอาจจะมีสีเทาเคลือบเป็นเปลือกด้านนอก มองดูผิวเผินคล้ายเค้กก้อนโต การรับประทานจะต้องฝานบางๆ รับประทานเนื้อในที่มีสีขาว นิยมรับประทานร่วมกับผลไม้รสหวานอย่างแอปเปิ้ล ลูกแพร ถั่วธัญพืช แยมผลไม้ น้ำผึ้ง แครกเกอร์ และขนมปังเป็นหลัก บางครั้งชาวฝรั่งเศสนิยมทานชีสบรีร่วมกับแชมเปญ เบียร์ และไวน์แดง เพราะให้รสสัมผัสที่นุ่มลิ้นอร่อยยิ่งขึ้น เป็นอีกประเภทชีสหลายคนชื่นชอบในรสชาติ

  1. กามองแบร์ (Camembert Cheese)

Camembert Cheese นั้นมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับชีสบรีมาก สำหรับประเภทชีสอร่อยยอดนิยมอย่าง ชีสกามองแบร์ (Camembert) ซึ่งเริ่มผลิตตั้งแต่ปีค.ศ. 1791 ที่เมืองกามองแบร์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศสเป็นชีสที่มีความกลมกล่อมถูกใจคนรักชีสที่สุด เพราะมีความครีมมี่ ผสมกับรสชาติหวานนิดหน่อยมีเอกลักษณ์พิเศษมีความเป็นน้ำนมค่อนข้างชัดเจนหอมๆมันๆ ผลิตจากน้ำนมวัว นิยมรับประทานร่วมกับไวน์แดง ขนมปัง ผลไม้ และยังเป็นวัตถุดิบหลักของหลายเมนูด้วย

  1. มอสซาเรลลา (Mozzarella Cheese)

มอสซาเรลลาชีส (Mozzarella Cheese) เป็นชีสที่โดดเด่นเรื่องความยืดนุ่มหนึบจัดอยู่ในกลุ่ม Semi-Soft Cheese นิยมใช้เป็นชีสโรยหน้าพิซซ่า ลาซานญ่า หรือแม้กระทั่งชีสทอดก็ใช้ชีสมอสซาเรลลา คนไทยมีภาพจำของชีสยืดจากชีสประเภทนี้มีกำเนิดจากอิตาลีอีกเช่นกัน ในอิตาลีนิยมในน้ำนมควายในการผลิต ซึ่งมอสซาเรลลาทั่วไปจะมีสีขาวและมีสีเหลืองอ่อนบางครั้ง โดยขึ้นอยู่กับอาหารของสัตว์ที่กินเข้าไปในช่วงนั้นซึ่งจัดเป็นชีสที่อร่อยกลมกล่อม

  1. เฟตา (Feta Cheese)
    เนยแข็งสีขาวเนื้อนุ่ม เฟตาชีส (Fata Cheese) มีจุดกำเนิดที่กรีซ ทำจากนมแกะหรือนมแพะ เป็นชีสสดที่มีรสเค็มไม่มาก ส่วนใหญ่ใช้ปรุงเมนูกรีกสลัดซึ่งเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ เพราะมีทั้งหอมแดง มะเขือเทศ แตงกวา ผักกาดแก้ว พริกหวาน มะกอกดอง ราดด้วยน้ำสลัดบาซามิค มิกซ์กับเฟตาชีสลงไป สลัดใช้ทานคู่กับสเต็กมื้อเด็ดและรับประทานตัดเลี่ยนร่วมกับเมนูปิ้งย่างบาบิคิวก็อร่อย
  2. คอทเทจ (Cottage Cheese)

คนรักสุขภาพหรือกำลังลดน้ำหนักต้องเลือกรับประทานคอทเทจชีส (Cottage Cheese) ด้วยไขมันต่ำ อุดมด้วยโปรตีนและมีโปรไบโอติกที่ดีต่อสุขภาพลำไส้ มองผิวเผินดูคล้ายป็อปคอน ส่วนใหญ่จะรับประทานร่วมกับของหวาน สลัดและผลไม้เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติคล้ายกับรับประทานครีม บางครั้งก็ใช้คอทเทจชีสเป็นวัตถุดิบทำแพนเค้กเพราะเพิ่มความหวานและอร่อยยิ่งขึ้น

  1. มาสคาโปน (Mascarpone Cheese)
    เป็นประเภทชีสที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากชีสประเภทอื่นๆ ที่เล่ามาข้างต้นเล็กน้อย มาสคาโปนชีส (Mascarpone Cheese) เป็นครีมชีสที่อร่อยนุ่มลิ้น ละลายในปาก รสชาติดีมีต้นกำเนิดจากอิตาลี นิยมใช้เป็นวัตถุดิบเมนูขนมหวาน เช่น ทีรามิสุ พาย บานอฟฟี่ และอื่นๆ แต่ด้วยความที่หาค่อนข้างยากมาสคาโปนชีสจึงไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่าไหร่นัก
  2. ชีสสวิส (Swiss Cheese)

เนยแข็งชีสสวิส (Swiss Cheese) ของเด็ดจากสวิตเซอร์แลนด์ครองใจคนทั่วโลกมีรูปลักษณ์โดดเด่นด้วยรูกระจายเต็มเป็นโพลง ซึ่งเกิดจากการบ่มและมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ภายในเนื้อชีส โดยรวมชีสสวิสจะมีสีเหลืองทองมีขนาดใหญ่เป็นชีสระดับตำนานที่เริ่มทำครั้งแรกที่จังหวัดไฟร์บอร์ก ใช้ระยะเวลาบ่มค่อนข้างนาน 10-18 เดือน Cheese รสชาติมันให้ความรู้สึกนุ่มและกรอบในเวลาเดียวกัน เรามักจะคุ้นเคยกับชีสชนิดนี้จากภาพในการ์ตูนชาวต่างชาตินิยมทานร่วมกับไวน์องุ่นขาวที่มาจากสวิตเซอร์แลนด์ และแชมเปญเพราะลงตัวเข้ากันดี สามารถรับประทานได้ทันทีแบบไม่ต้องปรุงรส หรือจะใช้เป็นส่วนผสมเมนูอาหารก็ได้

  1. เชดดาชีส (Cheddar Cheese)

เชดดาชีส (Cheddar Cheese) เป็นเนยแข็งทำจากนมวัวประเภท Semi-Hard Cheese กึ่งอ่อนกึ่งแข็งที่มีชื่อเรียกตามเมือง Cheddar แคว้น Somerset แห่งประเทศอังกฤษมีรสชาติเข้มข้น เป็นเนยแข็งที่หลายคนโปรดปรานเพราะใช้ประกอบอาหารหลากหลาย เช่น โรยหน้าสลัด โรยหน้ามันฝรั่งอบและโรยบนหลายเมนูช่วยเพิ่มความอร่อยมีรสเค็มแต่ไม่ยืดเมื่อโดนความร้อน

  1. กูวด้าชีส (Gouda Cheese)

กูวด้าชีส (Gouda Cheese) เป็นชีสกึ่งแข็งจากเนเธอร์แลนด์ทำจากนมวัว เป็นหนึ่งในชีสที่ได้รับความนิยมมาก รูปลักษณ์แปลกตามีลักษณะกลมแบนมีทั้งผิวสีแดงและสีเหลืองที่เคลือบเอาไว้ด้วยขี้ผึ้งพาราฟินเพื่อไม่ให้ชีสแห้งมากหลังจากเริ่มตากชีสให้แห้ง2-3 วัน ซึ่งนิยมหั่นเป็นชิ้นบางๆ รับประทานเสิร์ฟร่วมกับไวน์หรือเบียร์ มีความเค็มปนหวาน

  1. พาร์มีซานชีส (Parmigiano-Reggiano or Parmesan)

พาร์มีซานชีส (Parmesan Cheese) เป็นชีสประเภทแข็ง(Hard Cheese) มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลีสามารถพบเห็นเป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารอยู่เป็นประจำ เช่น ขูดโรยบนซีซาร์สลัด, พิซซ่า,โรยปรุงรสให้เมนูสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ เฟซตูชินี่ซอสเพสโต้ และสปาเก็ตตี้คาโบนาน่าให้อร่อย รสชาติเค็มมันซึ่งพาร์มีซานชีส นั้นยิ่งบ่มนานยิ่งอร่อย มีระยะเวลาการบ่มสูงสุด 36 เดือน (ประมาณ 3 ปี)จะยิ่งเข้มข้นมากๆ

  1. บลูชีส (Blue Cheese)

วัตถุดิบบลูชีส (Blue Cheese) เป็นชีสที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยใช้ราPenicilliumในการผลิตด้วย บลูชีสนั้นมีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศส ชีส ประโยชน์ ซึ่งความบลูแต้มจุดๆ สีฟ้าโทนเขียวนั้นมาจากเชื้อรา บลูชีสมีกลิ่นค่อนข้างเฉพาะตัวและมีรสเค็มเข้มข้น นิยมทำเมนูอาหารอบชีสเป็นหลัก

Categories:

Tags:


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *