รู้จักกับ น้ำโซดา พร้อมประโยชน์ และ โทษ ที่หลายคนไม่รู้

รู้จักกับ น้ำโซดา

รู้จักกับ น้ำโซดา น้ำโซดา ได้รับความนิยม ในกลุ่มคนรักสุขภาพมากขึ้น เพราะไม่มีน้ำตาล และมีความซาบซ่า ช่วยดับกระหาย และเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน สุขภาพจิตที่ดี ได้เป็นอย่างดี แต่มันส่งผลดีต่อร่างกายได้จริงหรือไม่ และมีโทษอะไร แอบแฝงที่เราไม่รู้อยู่หรือเปล่า

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่ม น้ำโซดา แล้วอยากรู้ว่า มันมีประโยชน์ และโทษต่อร่างกายอย่างไร SGE มีคำตอบ พร้อมพาคุณไปรู้จักน้ำดื่มชนิดนี้ ให้ดีมากขึ้น

รู้จักกับน้ำโซดา คืออะไร? น้ำโซดา มีลักษณะใส คล้ายน้ำเปล่า แต่ถูกอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปเป็นส่วนประกอบ ทำให้เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกซ่าอยู่ในปาก มักถูกนำไปเป็น Mixer ในน้ำหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และมีการแต่งกลิ่น สีและรสชาติ ออกมาเพื่อจำหน่ายด้วย โดยในภาษาอังกฤษ สามารถเรียกได้หลายชื่อ เช่น Soda Water, Carbonated Water, Fizzy Water และ Sparking Water

รู้จักกับ น้ำโซดา ประโยชน์จากการดื่มน้ำโซดา

1. ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร

น้ำโซดามีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว จึงช่วยย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น ทำให้เรอ ระบายแก็สในกระเพาะอาหาร ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง แก้ไขอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดี

2. แก้อาการท้องผูก

หากใครมีอาการท้องผูก หรือ ระบบขับถ่ายไม่ปกติ การดื่มน้ำโซดาช่วยได้ เพราะ จากงานวิจัยในต่างประเทศ พบว่า เมื่อแบ่งอาสาสมัครเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกดื่มน้ำโซดา อีกกลุ่มดื่มน้ำเปล่า เพื่อเปรียบเทียบอาการท้องผูกว่าเป็นอย่างไร ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ดื่มน้ำโซดา มีอาการท้องผูกน้อยลง ระบบขับถ่ายดีขึ้น มากกว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำเปล่า

3. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า น้ำโซดา สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ เนื่องจากเมื่อให้ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจำนวน 18 คนดื่มน้ำโซดา พบว่า คอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ลดลง ในขณะที่คอเลสเตอรอลดี (HDL) กลับเพิ่มขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 35 % อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในเรื่องนี้ยังมีไม่มากนัก จึงยังไม่ควรเชื่อทั้งหมด และต้องรอผลการศึกษาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป

4. ใช้อาบน้ำ ลดความดันโลหิตสูงได้

หากคุณเป็นคนที่มีความดันโลหิตสูง เว็บบาคาร่า 888 การอาบน้ำ โดยใช้น้ำโซดา อาจช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ เนื่องจากงานวิจัยในรายงานสรีรวิทยา ปี 2016 พบว่า น้ำโซดาอุ่น ๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ เมื่อสัมผัสผิวหนัง จึงเหมาะสำหรับคนที่มีความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในเรื่องนี้ยังมีไม่มากนัก จึงยังไม่ควรเชื่อทั้งหมด และต้องรอผลการศึกษาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป

Categories:

Tags:


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *